ประวัติ พระศรีรัตนไตรญาณภพ (หลวงพ่อโต)
พระศรีรัตนไตรญาณภพ หรือหลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2498 โดยพระอาจารย์เปลี่ยน ใช้ฟางมัดเป็นรูปองค์พระ เพื่อเป็นตัวแทนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สำหรับเป็นที่สักการะบูชายึดเหนี่ยวจิตใจของขาวบ้านมาบยายเลียและบริเวณใกล้เคียง เดิมทีประดิษฐานอยู่ใต้ต้นมะม่วง และได้ คลื่อนย้ายมาประดิษฐานที่กุฏิเจ้าอาวาสและศาลาตามลำดับ
ในปี พ.ศ. 2504 พระจำนงค์ คงคปญโญ เจ้าอาวาส ซึ่งต่อมาท่านได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็น "พระครูวิจิตรธรรมสาร" และได้เป็นเจ้าคณะอำเภอบางละมุง ตามลำดับ ได้นำปูนมาทำพิธีหุ้มองค์พระเพื่อให้คงทนถาวรดังเห็นในปัจจุบัน และได้สร้างวิหาร พร้อมอัญเชิญองค์หลวงพ่อโต ประดิษฐานไว้ในวิหารแห่งนี้ ทำให้เป็นที่เรียบร้อยสวยงาม เป็นที่สักการะบูชาของชาวบ้านกันมาตลอด และมีงานประจำปีปิดทองหลวงพ่อโต ในระหว่างวันที่ 1-7 มีนาคม ของทุกปีเพื่อให้พุทธสาสนิกชนได้มาสักการะบูชา
ความศักดิ์สิทธิ์และอภินิหาร
เรื่อง "เผาไม่ไหม้"
สมัยที่องค์หลวงพ่อโตยังเป็นฟางนั้น มีสภาพชำรุดไม่เต็มองค์ ประชาชนจึงมีความคิดเห็นว่า จะนำไปเผาเพื่อจะสร้างองค์ใหม่ขึ้น แต่ไม่สามารถเผาให้ไหม้ได้ จึงเป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ไม่ว่าผู้คนในชุมชนมีเรื่องเดือดร้อนอะไร มักระมากราบขอพรบอกให้หลวงพ่อช่วย มักจะได้สมความปรารถนาดังที่ตั้งใจ จึงเป็นที่เคารพกราบไหว้สักการะของชาวบ้านมาบยายเลีย และในย่านชุมชนใกล้เคียง ซึ่งโดยมากมักจัดหาลิเก หรือนำกล้วยบวชชี ไข่ต้ม พวงมาลัย หรือแผ่นทอง มาถวายเป็นเครื่องสักการะบูชา
อภินิหาร
เรื่อง "มีเมียเป็นไก่"
สมัยที่หลวงพ่อโตยังเป็นฟางชำรุดไม่เต็มองค์อยู่นั้น แม่ไก่ได้ไปทำรังไข่ที่องค์หลวงพ่อโต ขณะนั้นมีคณะลิเก มาทำการแสดงงานประจำปี ไปล้อเลียนหลวงพ่อโตว่า "มีเมียเป็นไก่" พอจบคำก็ล้มชักดิ้นในทีทันใดนั้นเอง ต้องไปทำพิธีขอขมาโทษจึงหายเป็นปกติ จึงเป็นที่เลื่องลือในความศักดิ์สิทธิ์ และ เคารพกราบไหว้ของพุทธศาสนิกชนทั่วไป